ย้อนไป 10 กว่าปีที่แล้วหลายคนคงมีโอกาสได้เห็นแอนนิเมชันเรื่อง "แขนกลคนแปรธาตุ" ผ่านทางทีวีอยู่บ้าง แต่อาจไม่ได้สนใจ หรือไม่มีโอกาสได้ติดตามดูเหมือนผู้เขียน จนเมื่อปลายปีที่ผ่านมา แขนกลคนแปรธาตุถูกนำมาสร้างใหม่ในรูปแบบคนแสดง ส่งผลให้การ์ตูนเรื่องนี้ถูกกล่าวถึงอย่างกว้างขวางอีกครั้ง สร้างความสนใจให้กับผู้เขียนได้ไม่น้อยเลยทีเดียว
หลังจากขวนขวายหามาดูจบจนก็พบว่านี่มันไม่ใช่การ์ตูนธรรมดา! ถ้ามีการจัดอันดับการ์ตูนดี การ์ตูนขึ้นหิ้ง จะต้องมีชื่อของ Fullmetal Archemist แขนกลคนแปลธาตุอยู่อย่างแน่นอน
หากคุณคิดว่าการ์ตูนเรื่องนี้เป็นแค่การ์ตูนที่มีเนื้อหาสำหรับเด็ก ใช้พลังวิเศษตบแปะต่อสู้กัน คุณคิดผิด เพราะการ์ตูนเรื่องนี้ลึกล้ำเหนือจินตนาการกว่านั้นมาก
แขนกลคนแปรธาตุมีเนื้อหาเกี่ยวกับวิชาเล่นแร่แปรธาตุ (ศาสตร์ที่มีขึ้นก่อนวิทยาศาสตร์) การทหาร การเมือง การสงคราม ศาสนา อีกทั้งยังแฝงปรัชญาไว้อย่างลึกซึ้งลงตัว ผู้แต่งนำเรื่องยากมาเล่าได้อย่างสนุกสนานและเข้าใจง่ายอย่างน่ามหัศจรรย์
กฎการแลกเปลี่ยนที่เท่าเทียม
ไม่มีอะไรที่เราได้มา โดยที่ไม่เสียอะไรไป เป็นหนึ่งในกฎธรรมชาติ เรื่องธรรมดาที่เราพบทุกวัน ถ้าเราอยากได้ของที่ขาย เราต้องจ่ายเงินซื้อมาในราคาที่เท่าเทียมกับสิ่งของนั้น ๆ ถ้าเราอยากเก่งเรื่องอะไรสักอย่าง เราก็ต้องฝึกฝนในปริมาณเวลาที่เท่าเทียมกัน
ในแขนกลฯการเล่นแร่แปรธาตุเพื่อให้ได้มาเพื่อสิ่งหนึ่งจะต้องจ่ายอีกสิ่งหนึ่งแลกเปลี่ยนในปริมาณเท่าเทียมกันเสมอ ถ้ามีความไม่เท่าเทียมเกิดขึ้น การแลกเปลี่ยนก็จะล้มเหลว หรือได้สิ่งอื่นที่ไม่ต้องการมาแทน
หนึ่งคือทุกสิ่ง ทุกสิ่งคือหนึ่ง
"หนึ่งคือตัวเรา ทุกสิ่งคือโลก" หรือก็คือเราเป็นส่วนหนึ่งของโลก และโลกก็เป็นส่วนหนึ่งของเรา เสมือนเป็นสิ่งเดียวกัน ทุกสิ่งทุกอย่างล้วนเป็นส่วนประกอบของกันและกัน
แก่นแท้ สัจจะ หรือความจริง
สำหรับผู้เขียนแล้วการเข้าใจ "แก่นแท้" ในแขนกลฯดูคล้ายกับการ "ตรัสรู้" ในศาสนาพุทธ หลายคนอยากรับรู้ความจริงเพื่อสนองกิเลสตัวเอง แต่ทั้งสองสิ่งสวนทางกัน เพราะถ้าไม่ละทิ้งกิเลสก็ไม่สามารถตรัสรู้ได้ แต่ถ้าตรัสรู้ เข้าใจความจริงในจักรวาลแล้วก็จะไม่ต้องการสิ่งใดอีก
ยกตัวอย่างสำหรับแฟน GOT ก็คือแบรนที่กลายเป็นอีกาสามตา เห็นเรื่องราวที่เกิดขึ้นมากมายทำให้กลายเป็นคนเจนโลก เห็นทุกอย่างเป็นเรื่องปกติ ไม่มีความต้องการแบบก่อนหน้านี้
ชีวิตเป็นสิ่งที่นำกลับมาในรูปแบบเดิมไม่ได้
ในเรื่องตัวเอกเอ็ดและอัลพยายามชุบชีวิตแม่กลับมา แต่ทำไม่สำเร็จ และได้ผลลัพธ์ที่น่าเศร้า ซึ่งถ้าติดตามตลอดทั้งเรื่องก็จะพบว่าทุกคนที่พยายามชุบชีวิตมนุษย์จะได้ผลลัพธ์ที่คล้ายกัน
คุณอาจเคยได้ยินคำกล่าวว่า "สสารไม่มีวันสูญสลายไปจากโลก" ชีวิตก็เช่นกัน ในทุกวินาทีที่มีคนตาย ก็จะมีเด็กที่เกิดใหม่มาทดแทน หากแต่ไม่ใช่คนเดิมที่เกิดมา
เดิมทีตั้งแต่เรื่องเก่า ๆ อย่างปกรณัมเทพกรีกก็มีเรื่องของการห้ามการชุบชีวิต เอสคิวเลปิอัส ลูกชายของเทพอพอลโล ผู้มีความปราศเปรื่องด้านการแพทย์จนสามารถชุบชีวิตมนุษย์ได้ เป็นเรื่องที่ดูน่ายินดีแต่ก็สร้างความไม่พอใจให้กับเจ้านรกเฮเดส และนำมาซึ่งความตายของเอสคิวเลปิอัส
ร่างกายและวิญญาณเป็นสิ่งที่แยกจากกันแต่เป็นหนึ่งเดียวกัน
ในแขนกลฯอัลต้องจ่ายร่างกายทั้งตัวไปกับการชุบชีวิตแม่ที่ล้มเหลว ซึ่งยังสามารถมีชีวิตโดยมีร่างกายเป็นชุดเกราะที่เอ็ดผนึกวิญญาณไว้ได้ แต่ไร้ความรู้สึกทางกายภาพ คือไม่หิว ไม่เจ็บ และไม่สามารถร้องไห้ได้ แสดงให้เห็นว่าร่างกายเป็นเพียงภาชนะที่ใส่วิญญาณของเราลงไปเท่านั้น ทว่าชีวิตที่ขาดร่างกายที่ทำให้มีความรู้สึกต่าง ๆ ก็คงเรียกได้ว่าไม่ใช่ชีวิตในฐานะมนุษย์ อย่างอัลที่หลายคนตกใจกลัวเมื่อรู้ว่าใต้ชุดเกราะของเขาว่างเปล่า เพราะคนเหล่านั้นต่างรู้สึกลึก ๆ ว่าอัลแตกต่างจากตัวเอง
โฮมุนครุสและบาป 7 ประการ
โฮมุนครุส ตัวร้ายหลักของเรื่องถูกแทนตัวด้วยบาป 7 ประการของศาสนาคริสต์ เป็นคำสอนให้ละเว้น คล้ายกับศีล 5 ในศาสนาพุทธ ซึ่งบาปแต่ละข้อก็จะแสดงตัวตนออกมาอย่างชัดเจนจนสามารถเข้าใจถึงผลเสียของบาปแต่ละข้อได้เป็นอย่างดี
ทั้งหมดเป็นเพียงตัวอย่างที่ยกมาจากทั้งหมด ผู้เขียนรู้สึกดีใจมากที่ได้ดู "แขนกลคนแปรธาตุ" ในวันที่ตัวเองสามารถเข้าใจสิ่งที่ผู้แต่งต้องการจะสื่อออกมาได้ เพราะถ้าดูแต่เด็กคงได้เพียงความสนุกเท่านั้น
หากคุณสนใจแอนนิเมชันเรื่องนี้ขึ้นมาแล้วผู้เขียนก็อยากจะเชียร์ในคุณดูเถอะ มันจะไม่เสียเวลาแต่คุ้มค่าแน่นอน
Comments
Post a Comment